Authors Posts by user

user

86 POSTS 0 COMMENTS

0 2578

happy-family-cartoon-holding-hands-illustration-45854910

อุปมาเรื่องลูกล้างผลาญ
พระองค์ยังตรัสอีกว่า ‘ชายผู้หนึ่งมีบุตรสองคน  บุตรคนเล็กพูดกับบิดาว่า  “พ่อครับ โปรดให้ทรัพย์สมบัติส่วนที่เป็นมรดกแก่ลูกเถิด” บิดาก็แบ่งทรัพย์สมบัติให้แก่ลูกทั้งสองคน  ต่อมาไม่นาน บุตรคนเล็กรวบรวมทุกสิ่งที่มีแล้วเดินทางไปยังประเทศห่างไกล ที่นั่นเขาประพฤติเสเพลผลาญเงินทองจนหมดสิ้น  เมื่อเขาหมดตัว  ก็เกิดกันดารอาหารอย่างหนักทั่วแถบนั้น   และเขาเริ่มขัดสน  จึงไปรับจ้างอยู่กับชาวเมืองคนหนึ่ง  คนนั้นใช้เขาไปเลี้ยงหมูในทุ่งนา    เขาอยากกินฝักถั่วที่หมูกินเพื่อระงับความหิว แต่ไม่มีใครให้  เขาจึงรู้สำนึกและคิดว่า “คนรับใช้ของพ่อฉันมีอาหารกินอุดมสมบูรณ์ ส่วนฉันอยู่ที่นี่ หิวจะตายอยู่แล้ว  ฉันจะกลับไปหาพ่อ พูดกับพ่อว่า “พ่อครับ ลูกทำบาปผิดต่อสวรรค์และต่อพ่อ  ลูกไม่สมควรได้ชื่อว่าเป็นลูกของพ่ออีก โปรดนับว่าลูกเป็นผู้รับใช้คนหนึ่งของพ่อเถิด” เขาก็กลับไปหาบิดา  ‘ขณะที่เขายังอยู่ไกล บิดามองเห็นเขา รู้สึกสงสาร จึงวิ่งไปสวมกอดและจูบเขา  บุตรจึงพูดกับบิดาว่า “พ่อครับ ลูกทำบาปผิดต่อสวรรค์และต่อพ่อ ลูกไม่สมควรได้ชื่อว่าเป็นลูกของพ่ออีก”  แต่บิดาพูดกับผู้รับใช้ว่า “เร็วเข้า จงไปนำเสื้อสวยที่สุดมาสวมให้ลูกเรา นำแหวนมาสวมนิ้ว นำรองเท้ามาใส่ให้  จงนำลูกวัวที่ขุนอ้วนแล้วไปฆ่า แล้วกินเลี้ยงฉลองกันเถิด  เพราะลูกของเราผู้นี้ตายไปแล้วกลับมีชีวิตอีก หายไปแล้ว ได้พบกันอีก” แล้วการฉลองก็เริ่มขึ้น ส่วนบุตรคนโตอยู่ในทุ่งนา เมื่อกลับมาใกล้บ้าน ได้ยินเสียงดนตรีและการร้องรำ  จึงเรียกผู้รับใช้คนหนึ่งมาถามว่าเกิดอะไรขึ้น  ผู้รับใช้บอกเขาว่า “น้องชายของท่านกลับมาแล้ว บิดาสั่งให้ฆ่าลูกวัวที่ขุนอ้วนแล้ว เพราะเขาได้ลูกกลับคืนมาอย่างปลอดภัย”  บุตรคนโตรู้สึกโกรธ ไม่ยอมเข้าไปในบ้าน บิดาจึงออกมาขอร้องให้เข้าไป  แต่เขาตอบบิดาว่า “ลูกรับใช้พ่อมานานหลายปีแล้ว ไม่เคยฝ่าฝืนคำสั่งของพ่อเลย พ่อก็ไม่เคยให้ลูกแพะแม้แต่ตัวเดียวแก่ลูกเพื่อเลี้ยงฉลองกับเพื่อน ๆ  แต่พอลูกคนนี้ของพ่อกลับมา เขาคบหญิงเสเพล ผลาญทรัพย์สมบัติของพ่อจนหมด พ่อยังฆ่าลูกวัวที่ขุนอ้วนแล้วให้เขาด้วย”  บิดาพูดว่า “ลูกเอ๋ย ลูกอยู่กับพ่อเสมอมา ทุกสิ่งที่พ่อมีก็เป็นของลูก  แต่จำเป็นต้องเลี้ยงฉลองและชื่นชมยินดี เพราะน้องชายคนนี้ของลูกตายไปแล้ว กลับมีชีวิตอีก หายไปแล้ว ได้พบกันอีก”’

 

0 675

images (2)

 

หมา หรือภาษาทางการว่า สุนัข (ชื่อวิทยาศาสตร์ Canis lupus familiaris หรือ Canis familiaris) เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมหลายชนิดหลายสกุลในวงศ์ Canidae ออกลูกเป็นตัว ลำตัวมีขนปกคลุม มีเขี้ยว 2 คู่ เท้าหน้ามี 5 นิ้ว เท้าหลังมี 4 นิ้ว ซ่อนเล็บไม่ได้ มีหลายพันธุ์ เป็นสัตว์เลี้ยงชนิดแรกของมนุษย์

0 813

1287095165

บทแสดงความรัก

ข้าแต่พระเจ้า ข้าพเจ้ารักพระองค์สุดดวงใจยิ่งกว่าสิ่งทั้งปวง เพราะพระองค์ทรงเป็นความดีงามหาที่สุดมิได้ และทรงสมควรได้รับความรักจากมนุษย์ทั้งมวล และเพราะรักพระองค์ ข้าพเจ้าจึงรักผู้อื่น เหมือนรักตนเอง และพร้อมจะให้อภัยผู้อื่นเสมอ โปรดทรงเพิ่มพูนความรักของข้าพเจ้าด้วยเถิด อาแมน

 

 

0 582

06fmaNews2กิจการของคณะซาเลเซียนของคุณพ่อบอสโก เพื่อการอบรมและการศึกษาสำหรับเยาวชนที่ยากจน และถูกทอดทิ้ง ได้แผ่ขยายไปใน  129  ประเทศทั่วโลก มีกิจการกว่า 2000 แห่ง โดยเริ่มจากการที่บรรดาธรรมทูตซาเลเซียนได้เสียสละเดินทางออกจากประเทศของตนเพื่ออุทิศตนรับใช้เยาวชนตามจิตตารมณ์ของคุณพ่อบอสโกในประเทศต่างๆ</p>

 

0 669

ขบวนการเยาวชนซาเลเซียนให้ความสำคัญกับ

  1. การอบรมครบทุกด้าน การแบ่งปันกันและความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของกลุ่ม
  2. การดำเนินชีวิตในแต่ละวัน ด้วยการปฏิบัติจิตตารมณ์เยาวชนซาเลเซียน (Salesian Youth Spirituality-SYS)
  3. การดำเนินชีวิตด้วยหัวใจที่เปี่ยมด้วยมิตรภาพสำหรับพระเยซูเจ้าและสำหรับคนอื่นๆ โดยเฉพาะบรรดา เยาวชน
  4. การเติบโตในความเชื่อตามจังหวะเวลาของแต่ละคน
  5. พันธกิจการแพร่ธรรมของเยาวชนที่ตั้งใจจะอุทิศตนเพื่อเยาวชนอื่นๆ โดยผ่านทางการอบรม

ลักษณะของขบวนการเยาวชนซาเลเซียน

  1. เป็นขบวนการเยาวชนอาสาสมัครที่สละเวลา อุทิศตนเพื่อให้การสนับสนุน ความช่วยเหลือในความก้าวหน้าของบุคคลอื่นโดยเฉพาะเยาวชนด้วยการอบรม
  2. มีคุณพ่อบอสโกเป็นแบบอย่างทั้งในการภาวนาและการทำงาน และมีความผูกพันกับพ่อบอสโก
  3. ร่วมมือกันด้วยวิธีการต่างๆ เพื่อสร้างกิจการที่ดีในลักษณะของซาเลเซียนเพื่อบรรดาเยาวชน
  4. มีการเข้าร่วมขบวนการในทุกทวีป ในวัฒนธรรมและศาสนาที่แตกต่างกัน ในกระบวนการที่เต็มใจร่วมมือกันเพื่อแลกเปลี่ยนความสามารถและพระพรที่มี
  5. พลังปลุกเร้าใจของขบวนการคือ จิตตารมณ์เยาวชนซาเลเซียน

องค์ประกอบของขบวนการเยาวชนซาเลเซียน

  1. การอบรมในสิ่งแวดล้อมทางวัฒนธรรมของเยาวชนเอง
  2. การแพร่ธรรมโดยการอบรม และการอบรมโดยการแพร่ธรรม
  3. มีศีลมหาสนิทเป็นศูนย์กลาง และนำเยาวชนให้มารู้จักความเชื่อนี้ที่พรสวรรค์และการดำเนินชีวิตของพวกเขาจะได้รับการสนับสนุนและการนำทาง
  4. การนำเยาวชนให้พบกับบทบาทหน้าที่ของตนตามโครงการของพระเจ้า และพวกเขาจะได้รับพระพรเพื่อเปลี่ยนแปลงโลกนี้เช่นเดียวกับพระเยซูเจ้า

ขบวนการเยาวชนซาเลเซียนเป็นของขัวญทั้งสำหรับผู้ที่เป็นเยาวชนและไม่เป็นเยาวชน ทั้งผู้ที่เชื่อและผู้ที่ไม่เชื่อ ทั้งผู้ที่เป็นคริสตชนและไม่เป็นคริสตชน

0 731

ซิสเตอร์มาเรีย ตรองกัตตี
เกิดวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 1883
มรณะวันที่ 25 สิงหาคม 1969

ผู้ซึ่งเผ่าวารีเรียกกันว่า มาเดรซีต้า แปลว่า “คุณแม่ที่รัก”ท่านเป็นมิชชันนารี ชาวอิตาเลียน ท่านได้ละบ้านเกิดเมือนนอนอันผาสุก มั่งคั่ง และสมัครไปทำงานแพร่ธรรมท่ามกลางคนป่าเผ่ากีวารี ที่ประเทศเอกวาดอร์ ในอเมริกาใต้ ทิ้งภาษาของตน ขนบธรรมเนียมและปรับตนให้เป็นที่เข้าใจ และยอมรับของชาวเผ่า ตามวิสัยมนุษย์แล้วดูเหมือนเป็นเรื่องแสนยาก แต่เพราะความรักต่อวิญญาณ ความห่วงใยต่อความรอดของพวกเขา เรื่องยากจึงกลับเป็นเรื่องง่าย ซิสเตอร์ตรองกัตตีได้พากเพียร ฝึกฝนทุกอย่าง ท่านถ่อมตน รับใช้ บริการพวกเขาด้วยใจมารดาที่มิรู้หน่าย เริ่มแต่การจัดหาปัจจัยเบื้องต้นทุกประการให้แก่พวกเขา…อาหาร เสื้อผ้า ที่อยู่อาศัย ฯลฯ ใครต้องการอะไร ซิสเตอร์มาเรียพร้อมเสมอ ทั้ง ๆ ที่หนทาง การคมนาคมลำบากแสนเข็ญ เพื่อจะได้แต่ละสิ่งมาสนองความต้องการของพวกเขา ชีวิตที่พลีอุทิศด้วยใจกว้างของซิสเตอร์มาเรียจับใจทุกคน ที่สุดท่านนำให้คนทั้งเผ่าให้เข้าใจและยอมรับแก่นแท้แห่งชีวิตที่พวกเขากำลังแสวงหา คือ องค์ความรัก บัดนี้ซิสเตอร์

มาเรียมิได้เป็นมิชชันนารีแปลกหน้าที่ทุกคนตีตนออกห่างอีกต่อไป แต่เป็นศูนย์ร่วมใจของเผ่า สามารถเอาชนะใจพวกเขา ชาวเผ่ากีวารีต่างยกย่องท่านให้เป็นหัวหน้าเผ่าที่ทุกคนต่างน้อมรับ เชื่อฟัง เคารพรัก มาเดรซีต้า ที่ใครๆ รักและหวงแหนยิ่งท่านคือผู้ที่ได้มอบชีวิตเป็นบูชาเพื่อชนเผ่ากีวารี

วันที่ 25 สิงหาคม 1969 ขณะที่เครื่องบินกำลังขึ้นสู่ท้องฟ้า นำท่านเดินทางไปฟื้นฟูจิตภาวนา เครื่องบินกลับถลาร่อนลงสู่พื้นโดยอุบัติเหตุ วิญญาณของท่านได้บินไปสู่อ้อมพระหัตถ์ของพระเป็นเจ้า กายของท่านถูกฝังท่ามกลางเผ่ากีวารี ความโศกเศร้าเข้าครอบงำชนทั้งเผ่า ท่านจากพวกเขาไปอย่างกระทันหัน จริงอยู่ท่านจากไปแล้ว ทว่ากลิ่นไอความศักดิ์สิทธิ์ ยังคงหอมกรุ่นไม่เฉพาะในหมู่บ้านชาวกีวารี…แต่ในพระศาสนจักรคาทอลิก… ในคณะธิดาแม่พระองค์อุปถัมภ์ เป็นต้น

0 691

ซิสเตอร์คาร์เมน โมเรโน – ซิสเตอร์อัมปาโร คาร์โบแนล

เหยื่อสังหารของคอมมิวนิสต์ในประเทศสเปนท่านทั้งสองอยูู่ด้วยกันและช่วยกันแพร่ธรรมและยังได้อุทิศชีวิตเป็นมรณสักขีพร้อมกันอีกด้วย เมื่อการปฏิวัติที่บาร์เซโลนากกำลังถึงขัั้นนองเลือด แม้ท่านทั้งสองจะมีโอกาสหนีเอาตัวรอด แต่ก็มิได้คิดจะกลับอิตาลี ท่านตัดสินใจอยู่เฝ้าซิสเตอร์ที่ป่วยอยู่ ทั้งสองจึงถูกทหารคอมมินิสต์จับไปขึ้นศาลประชาชน ถูกเขาประจาน และที่สุดก็ถูกนำไปยิงเป้าที่ฮิปโปโครม

เมื่อวันที่ 6 กันยายน 1936 ท่านได้ถวายชีวิตแด่พระเจ้า เพื่อความเมตตาไปสู่เพื่อนมนุษย์ เพราะความรักต่อพระองค์ท่านได้เผชิญกับความเหนื่อยหน่าย งานหนัก ความลำบาก ความหิว กระหาย และแม้กระทั่งความตาย

ซิสเตอร์คาร์เมน โมเรโน

เกิด วันที่ 24 สิงหาคม 1885

มรณะ วันที่ 6 กันยายน 1936

ซิสเตอร์คาร์เมนเกิดที่เมืองวิลลามาร์ติน ในประเทศ สเปน ในครอบครัวที่มีความศรัทธาลึกซึ้ง ท่านต้องเผชิญอุปสรรคมากมาย เพื่อจะได้เข้าในคณะและถวายตัวแด่พระเป็นเจ้า ภายหลังท่านได้รับเลือกเป็นอธิการิณีและรองอธิการิณีภาคในเวลาต่อมา

ซิสเตอร์อัมปาโร คาร์โบแนล

เกิดวันที่ 9 พฤศจิกายน 1893

มรณะวันที่ 6 กันยายน 1936

ซิสเตอร์อัมปาโรถือกำเนิดในครอบครัวชาวนาที่ซื่อ ๆ ได้เรียนในโรงเรียนของคณะซึ่งอยู่ข้างบ้าน ท่านพบอุปสรรคจากครอบครัว เพื่อที่จะติดตามกระแสเรียก เมื่อท่านถวายตัวแด่พระเป็นเจ้าแล้ว ท่านเผชิญการเจ็บป่วยหนัก แต่ก็ผ่านพ้นได้ เมื่อสงครามระเบิดขึ้น ท่านถูกจับและถูกยิงเป้าในที่สุด

0 675

ซิสเตอร์ เทเรซา วัลเซ

เกิดวันที่ 10 ตุลาคม 1878

มรณะวันที่ 3 กรกฎาคม 1907

ซิสเตอร์เทเรซานอนทรมานบนเตียงวันแล้ววันเล่า ขณะที่กำลังวอนขอพระคุณจากคุณพ่อบอสโกอยู่ เงียบ ๆ นั้น คุณพ่อบอสโกประจักษ์มา ท่านค่อย ๆ เดินเข้ามาหาพลางยิ้มให้ซิสเตอร์เทเรซาเข้าใจทันทีว่า ท่านมาเพื่อช่วยให้เธอหายป่วย แต่ใจของเธอเวลานั้นเปี่ยมด้วยความรักฉันท์พี่น้อง คุณพ่อคะที่ห้องถัดไปมีซิสเตอร์โยวันนากำลังสวดเพื่อให้หายป่วย คุณพ่อไปช่วยเขาเถอะค่ะ”

ซิสเตอร์เทเรซาถือกำเนิดในตระกูลผู้ดี สูงศักดิ์ แห่งเมืองมิลานมีความงดงามและอุปนิสัยดีเป็นที่หมายปองของบุคคลมากมายแต่เธอได้เลือกวิถีชีวิต ติดตามพระคริสตเจ้า ยอมสละความสะดวกสบายและทุกสิ่งในชีวิต เพื่อดำเนินตามแบบฉบับของ นักบุญยวง บอสโก “ขอแต่วิญญาณ สิ่งอื่นนั้น ท่านเอาไปเถิด” เป้าหมายเดียวของเธอคือ ใช้ชีวิตเพื่อเด็กที่ยากจน ฝึกความ สุภาพถ่อมตน นำให้คนอื่นมารักพระได้มากเท่าที่เธอรัก เธอโปรดปรานเด็กยากจน และเด็กที่่ถูกทอดทิ้งมากที่สุด เด็กเหล่านี้รู้ดีว่าความรักของซิสเตอร์ผู้นี้ เต็มไปด้วยความสุภาพอดทนและเมตตา เธอดำเนินชีวิตนักบวชด้วยใจร่าเริง และซื่อสัตย์อย่างน่าชม แม้เมื่อความเจ็บป่วยมาเยือนเธอก็ยังยินดีรับ และถวายชีวิตแด่พระเป็นเจ้าเธอลาโลกนี้ไปสู่เคหาสน์ของพระองค์ เมื่อมี

อายุเพียง 29 ปี

0 682

ซิสเตอร์ เอวเซเบีย ปาโลมีโน

เกิดวันที่ 15 ธันวาคม 1899

มรณะ วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 1935

ขบวนแห่ศพมโหฬารผ่านตลอดเมืองวัลเวร์เด ประเทศสเปนผู้คนทั้งเมือง ไม่ว่าข้าราชการ พลเรือนต่างเข้าร่วมอยู่ในขบวนแห่ มากไปกว่านั้นอีก ผู้คนจากตำบลใกล้เคียงต่างทยอยกันมาสบทบเป็นขบวนยาวนับแต่ชนชั้นสูง จนถึงปุถุชนคนยาก น่าจะเดาว่าผู้ตายคงจะต้องเป็นคนตระกูลสูง มั่งคั่ง ชื่อเสียงโด่งดังเป็นคนใหญ่คนโต หรือเจ้าบ้านผ่านเมือง แต่หาเป็นเช่นนั้นไม่ เธอคือซิสเตอร์เอวเซเบีย พาโลมีโน ธมอ. ธรรมดาคนหนึ่ง ท่านยิ่งใหญ่ในความศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่รู้เห็นและยอมรับของทุกคนที่รู้จัก ชีวประวัติของเธอน่าเศร้ามากกว่าน่าชื่นชม เธอ ถือกำเนิดในครอบครัวที่แร้นแค้น บ่อยครั้งจำต้องไปขอทานกับพ่อเพื่อยังชีพ ชีวิตที่เต็มไปด้วยความทุกข์ยาก แต่ไม่ลำบากในการทำใจให้เป็นสุข ความยากลำบาก มิได้พรากความดีให้ดับสูญ ตรงกันข้ามเธอเจริญเติบโตในคุณธรรม ได้รับการอบรมบ่มนิสัยให้เข้มแข็ง อดทน มีใจรักพระ เกลียดกลัวบาป ไม่ติดกับวัตถุ อนิจังของโลก ใจเธอผูกพันชิดสนิทในความรักพระแต่ผู้เดียวด้วยใจซื่อ ๆ

ตั้งแต่เล็กจนโต ต้องฝ่าอุปสรรค ขวากหนาม นานาประการจนสามารถก้าวเข้าสู่ชีวิตนักบวชในคณะ ธมอ. ความรักเหนือธรรมชาติที่เปี่ยมล้นดวงใจ แม้ไร้การศึกษาเธอก็สามารถถ่ายทอดชีวิตพระให้กับทุกคนที่พบปะ แม้ยากจน ไร้ทรัพย์ ่แต่ก็สามารถทุ่มเทแบ่งปันความรักพระ และความศักดิ์สิทธิ์เพื่อมอบให้แก่วิญญาณที่น่าสงสารมากมายท่านถวายตัวเป็นนักบวชเพียง 11 ปี มีอายุได้ 36 ปี ก็สามารถบรรลุความศักดิ์สิทธิ์ตรงตามพระวาจาที่ว่า “ผู้ต่ำต้อย จะได้รับการยกย่องให้สูงขึ้น”