นักวิทยาศาสตร์พบซากตัวเห็บยุคไดโนเสาร์ในก้อนอำพัน แต่ก็อย่าเพิ่งนึกถึง Jurassic Park กันนะ
นักวิทยาศาสตร์กำลังตื่นเต้นกับการค้นพบก้อนอำพันที่มีอายุใกล้ 100 ล้านปี และเรื่องราวนี้ดูคล้ายว่าจะเป็นจุดกำเนิดของเรื่องราวในภาพยนตร์ Jurassic Park เลยทีเดียว เมื่อมีซากเห็บตัวเล็กๆ ติดอยู่ในก้อนอำพันนี้ซะด้วย และในท้องของมันเต็มไปด้วยเลือดของไดโนเสาร์ที่มันไปดูดมา และถ้ามองว่าโลกนี้เปรียบเหมือนนิยาย การค้นพบครั้งนี้อาจนำไปสู่การคืนชีพของไดโนเสาร์ แต่ในโลกแห่งความเป็นจริง ความหวังที่จะคืนชีพไดโนเสาร์มันช่างเลือนลางสิ้นดี
โดยนักวิทยาศาสตร์รายหนึ่งให้ข้อมูลว่า เจ้าเห็บตัวนี้มีขนาดใหญ่กว่าที่ควรจะเป็นถึง 8 เท่า ด้วยความที่มันสูบเลือดไดโนเสาร์เข้าไปจนเต็มท้อง แต่น่าเสียดายที่มันถูกเก็บกักอยู่ในก้อนอำพันมาเป็นเวลายาวนานเกินไป จนทำให้ DNA ที่อยู่ในเลือดไดโนเสาร์ เกิดการเสื่อมสภาพจนไม่สามารถนำมาใช้เพื่อการคืนชีพไดโนเสาร์ได้อีกต่อไป แต่การค้นพบก้อนอำพันนี้ก็ยังมีความสำคัญกับการศึกษาไดโนเสาร์ด้วยบางเหตุผล เพราะในก้อนอำพันนอกจากจะมีเจ้าเห็บยุคดึกดำบรรพ์แล้ว ก็ยังมีส่วนประกอบอื่นๆ อีกมากมายที่อยู่ในก้อนอำพันนี้
หนึ่งในรายการวัตถุที่น่าสนใจในก้อนอำพันคือ เส้นขนของไดโนเสาร์ ที่ไม่เพียงทำให้นักวิทยาศาสตร์มีหลักฐานมากขึ้นเกี่ยวกับไดโนเสาร์สายพันธุ์ที่มีเส้นขนปกคลุมตัว แต่มันยังอาจสามารถเชื่อมโยงหาความเกี่ยวพันระหว่างสิ่งมีชีวิตในโลกยุคปัจจุบัน เข้ากับบรรพบุรุษของมันเมื่อ 100 ล้านปีที่แล้ว และผลงานการวิจัยเกี่ยวกับการค้นพบครั้งนี้ ถูกตีพิมพ์ลงในวารสาร Nature Communications
น่าเสียดายที่การค้นพบครั้งนี้ทำให้แฟนๆ Jurassic Park ต้องผิดหวัง และเจ้าเห็บน้อยไม่สามารถคืนชีพไดโนเสาร์ ด้วยความที่ DNA ที่อยู่ในเลือดไดโนเสาร์ได้เสื่อมสภาพไปเรียบร้อยแล้ว แน่นอนว่า DNA ไม่สามารถคงสภาพพร้อมใช้งานไปได้ตลอดกาล ถึงแม้มันจะถูกเก็บเอาไว้อย่างมิดชิดแน่นหนาในก้อนอำพัน แต่เมื่อเวลาผ่านไปโมเลกุลก็เกิดความเสียหาย แต่ก็ไม่แน่ว่าในอนาคต เราอาจมีเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าพอที่จะสามารถทำงานได้กับ DNA ที่เสื่อมสภาพ และ Jurassic Park อาจจะเกิดขึ้นได้จริง ก็เป็นได้
ที่มา : bgr.com