คุณธรรมสำคัญกว่าความรู้
หญิงสาวผู้หนึ่ง ไปศึกษาต่อที่เมืองนอก อาศัยความเจ้าเล่ห์ ฉลาดแกมโกง ในการนั่งรถโดยสาร ผลปรากฎว่า อนาคตถูกทำลายลงอย่างย่อยยับ
สิบสองปีก่อน มีสาวน้อยผู้หนึ่ง พึ่งจบการศึกษาก็ไปที่ประเทศฝรั่งเศส เริ่มชีวิตกึ่งเรียนกึ่งทำงาน ต่อๆมา เธอพบเห็นว่า ระบบการขายตั๋วของรถโดยสารสาธารณะ เป็นระบบการช่วยเหลือตนเอง
ก็คือ..เราคิดจะไปสถานที่ใด ก็ซื้อตั๋วด้วยตนเอง ไปณ.จุดหมายปลายทางสถานีรถแทบจะเป็นระบบเปิดทั้งหมด ไม่มีจุดตรวจตั๋ว และไม่มีเจ้าหน้าที่ตรวจตั๋ว อีกทั้งการตรวจแบบสุ่มก็น้อยครั้งมากๆ
เธอ..พบเห็นช่องโหว่ของระบบการควบคุมนี้ หรืออาจจะเป็นการกล่าวว่าด้วยความนึกคิดส่วนตัวของเธอ เห็นว่าเป็นช่องโหว่ อาศัยความฉลาดนี้ เธอคำนวณด้วยความละเอียดถี่ถ้วน ลงความเห็นว่า ฉ้อโกงค่าตั๋ว โอกาสที่จะถูกตรวจพบมีเพียงประมาณ สามในหนึ่งหมื่น
กับการพบเห็นในสิ่งนี้ เธอดีใจกระดี้กระด้าภูมิใจอย่างยิ่ง ตั้งแต่นั้นมา เธอมักจะโกงราคาค่าโดยสาร อีกทั้งยังหาเหตุผลมาปลอบใจตนเองว่า ตนยังเป็นนักศึกษาจนจน ประหยัดได้ก็ประหยัด
สี่ปีผ่านไป เธอสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัย ที่โด่งดังมีชื่อเสียง และผลการเรียนที่โดดเด่นยอดเยี่ยมของเธอ เธอมีความมั่นใจเต็มเปี่ยม เธอเริ่มย่างก้าวเข้าประตูของบริษัทฯต่างชาติในกรุงปารีส โฆษณาตนเองอย่างไม่ลังเล
ทว่า..บริษัทฯเหล่านี้ แรกเริ่มล้วนกุลีกุจอกระตือรือร้น แต่หลังจากผ่านไปหลายวัน ต่างก็ปฏิเสธด้วยความนุ่มนวล
ความล้มเหลวผิดหวังครั้งแล้วครั้งเล่า ทำให้เธอโมโหโกรธมาก เธอมีความคิดเห็นในส่วนตัวว่า บริษัทฯ เหล่านี้ มีความลำเอียงแบ่งแยกเชื้อชาติ
ในครั้งสุดท้าย เธอบุกเข้าห้องผู้จัดการฝ่ายทรัพยากรบุคคล ของบริษัทฯหนึ่ง วิงวอนขอร้องผู้จัดการฯ ให้เหตุผลที่ไม่บรรจุเธอเข้าทำงาน แต่แล้ว..บทสรุปผลที่ปรากฎออกมานั้น เป็นสิ่งที่เธอไม่เคยคาดคิดมาก่อน
” คุณสุภาพสตรี พวกเราใช่ว่ามีการลำเอียง หรือแบ่งแยก อีกทั้งไม่ได้ดูแคลนในตัวเธอ กลับตรงกันข้าม พวกเราให้ความสำคัญต่อเธอมาก
ตอนแรกเริ่มที่เธอมาสมัครงาน ภูมิหลังของสถานศึกษา และผลการศึกษาของของเธอ พวกเราสนใจเป็นอย่างยิ่ง พูดตรงๆ ความสามารถในการปฏิบัติงาน เธอคือผู้ที่พวกเราต้องการอย่างมาก” ” แล้วเพราะเหตุใด ไม่บรรจุผู้ที่มีความสามารถอย่างฉัน เข้าทำงานในบริษัทล่ะ ?
” เพราะพวกเราได้ตรวจสอบ เครดิตความน่าเชื่อถือของเธอ พบเห็นว่า เธอเคยถูกบันทึก และถูกลงโทษ ในการโกงค่าโดยสารสาธารณะสามครั้ง ”
” ฉันไม่ปฏิเสธ ว่ามีเรื่องนี้จริง ทว่าเพื่อเรื่องเพียงเล็กน้อยนี้ พวกท่านกลับละทิ้งผู้มีความสามารถพิเศษคนหนึ่ง ที่วิทยานิพนธ์ได้รับการตีพิมพ์หลายครั้งลงในวารสารหรือ ?”
” เรื่องเล็กน้อย.. พวกเรากลับไม่คิดว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย พวกเราสังเกตพบเห็นว่า การโกงค่าโดยสารของเธอในครั้งแรก เป็นเวลาที่เธอได้มาประเทศเราหลังจากนั้นหนึ่งสัปดาห์
เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ เชื่อในคำอธิบายของเธอ เพราะเธอบอกว่า ตนเองยังไม่เข้าใจระบบการจำหน่ายตั๋ว แบบช่วยเหลือตนเอง จึงเพียงให้เธอชดเชยตั๋วใหม่ แต่หลังจากนั้น เธอก็ยังโกงค่าโดยสารอีกสองครั้ง ”
” เวลานั้น..ในกระเป๋าฉันไม่มีเงินปลีกพอดี ” ” ไม่..ไม่..ไม่..คุณสุภาพสตรี ผมไม่เห็นด้วยกับคำอธิบายของของเธอ เธอคงกำลังสงสัยไอคิวของผม ผมเชื่อว่า ก่อนที่จะถูกตรวจพบ เธออาจจะมีการกระทำในการโกงค่าตั๋วโดยสารเป็นร้อยๆครั้ง ”
” เช่นนั้น..โทษก็คงไม่ถึงตายหรอกน่ะ ทำไมถึงต้องจริงจังเช่นนี้ ทีหลังแก้ไขไม่ได้หรือ ?
” ไม่..ไม่..คุณสุภาพสตรี เรื่องนี้ยืนยันและพิสูจน์ได้สองอย่าง
- เธอไม่เคราพกฎระเบียบ เธอชำนาญในการพบเห็นช่องโหว่ของกฎระเบียบ และนำไปใช้ในทางเลวร้าย
- เธอไม่มีค่าพอที่จะได้รับความไว้วางใจ
และบริษัทฯของพวกเรา มีงานมากมาย ที่ต้องอาศัยความไว้วางใจในการปฏิบัติ หากเธอต้องรับผิดชอบบุกเบิกตลาด ในพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง บริษัทฯจะถ่ายโอนอำนาจให้เธอมากมายเพื่อประหยัดต้นทุน พวกเราไม่สามารถตั้งหน่วยงาน ตรวจสอบสอดส่องที่สับสนวุ่นวาย เหมือนดั่งระบบขนส่งของประเทศเรา
ดังนั้น พวกเราจึงไม่สามารถว่าจ้างเธอได้ สามารถพูดอย่างเด็ดขาดและการันตีได้เลยว่า ในประเทศนี้ หรือแม้กระทั่งทั้งสหภาพยุโรป เธออาจจะหา บริษัทฯที่จะว่าจ้างเธอไม่ได้เลย ”
จวบจนกระทั่งตอนนี้ เธอจึงเหมือนดั่งตื่นจากความฝัน เสียใจอย่างแรง อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้เธอเกิดความรู้สึกว่า เป็นวลีที่น่าตกใจที่แท้จริง กลับเป็น คำพูดสุดท้ายของฝ่ายตรงข้าม….
* บ่อยครั้ง..ที่คุณธรรม จริยธรรมสามารถชดเชยจุดบกพร่องของสติปัญญา อย่างไรก็ตาม สติปัญญากลับไม่สามารถเติมเต็มคุณธรรม จริยธรรมที่ว่างเปล่าได้ ตลอดกาล *
คุณธรรม จริยธรรมเป็นพื้นฐานคุณภาพของคนคนหนึ่ง ก็คือคุณค่าของคน คนที่โดดเด่นยอดเยี่ยมเพียงใด หากคุณค่าในความเป็นคนมีปัญหา ก็จะขาดความไว้วางใจและการสนับสนุนจากผู้อื่น
ในสถานที่ทำงาน บุคคลที่สูญสิ้นคุณค่าความเป็นคน ยิ่งน่ากลัว เพื่อผลประโยชน์เพียงเล็กน้อยที่อยู่ตรงหน้า แล้วกระทำซึ่งเสื่อมเสียถึงองค์กรส่วนรวม ต้องเป็นสุสานในอาชีพของบุคคลนั้นอย่างแน่นอน
* ในสถานที่ที่ทำงาน ต้องอาศัยความสามารถและความจริงใจ แพ้อะไรก็แพ้ได้ แต่อย่าแพ้คุณค่าในความเป็นคน *
CR : Niwat Rungvicha