ชีวิตจิตเยาวชนซาเลเซียนคืออะไร

ชีวิตจิตเยาวชนซาเลเซียนคืออะไร

313

ชีวิตจิตเยาวชนซาเลเซียนคืออะไร

 

“ชีวิตจิต” หมายถึงอุดมการณ์ค่านิยมต่างๆ ที่ผลักดันให้กลุ่มบุคคล ได้มีการแสดงออกในลักษณะของการกระทำการดำเนินชีวิต ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของกลุ่ม เช่น ชีวิตจิตคริสตชน ชีวิตจิตนักบวช เป็นต้น

เราอาจนิยามได้ว่า “ชีวิตจิตซาเลเซียน” ก็คือคุณลักษณะและค่านิยมของโลก ของมนุษย์ และพระคริสตธรรมซึ่งบรรดาศิษย์ของคุณพ่อบอสโกยึดไว้เป็นวิถีทางในการดำเนินชีวิต และประกอบกิจการงาน ชีวิตจิตนี้แสดงออกให้เห็นในชีวิต กิจการ คำพูด หรือหนังสือของคุณพ่อบอสโกซึ่งล้วนแต่มีค่า และเป็นพื้นฐานสำคัญยิ่งเพราะท่านเป็นผู้ตั้งคณะ เป็นบิดาและอาจารย์ของเรา

แก่นแท้ของชีวิตจิตซาเลเซียนคือ ความรักที่แสดงออกในงานแพร่ธรรมท่ามกลางเยาวชน เป็นความรักที่เริ่มก่อน และอุทิศให้แก่ผู้ที่ตนรักตามแบบฉบับของพระเยซูคริสตเจ้า คุณพ่อบอสโกเองได้กล่าวว่า “เพียงแต่รู้ว่าเธอเป็นเด็ก พ่อก็รักเธอแล้ว” นั่นหมายความว่าผู้อบรมซาเลเซียนใช้ความรักเป็นกุญแจสำคัญเปิดใจเยาวชนให้รับฟังการอบรม ใช้เหตุผลในการเตือนสอน และมุ่งที่จะพัฒนาเยาวชนให้เติบโตเป็นมนุษย์สมบูรณ์แบบ เหนืออื่นใดทั้งหมด ผู้อบรมซาเลเซียนมีความเป็นห่วงพิเศษถึงศีลธรรม และความรอดของวิญญาณเยาวชน จึงใช้ศาสนาเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวและขณะเดียวกันก็เป็นเป้าหมายของการอบรมด้วย ดังคติพจน์ที่ว่า “ขอแต่วิญญาณ สิ่งอื่นๆ ไม่ต้องการ”

ความรักในการช่วยเหลือเยาวชนผลักดันให้ผู้อบรมซาเลเซียนเข้าหาเด็กๆ ด้วยท่าทีของมิตรสหาย หรือของบุคคลในครอบครัวเดียวกันที่คอยชี้แนะสิ่งที่ควรกระทำและที่ควรละเว้น เด็กๆ ที่เข้ามาในโรงเรียนซาเลเซียนจะสัมผัสกับบรรยากาศแบบครอบครัว ซึ่งมีแต่ความร่าเริงยินดี ความไว้วางใจ ความเป็นกันเอง แต่ไม่ขาดความเคารพ เป็นวิธีการอบรมด้วยภาษาของหัวใจ แทนที่จะใช้ระบบการลงโทษ บังคับขู่เข็ญ ซึ่งมีแต่จะนำไปสู่ความล้มเหลวของการอบรม

ชีวิตจิตซาเลเซียนนี้ได้รับการอนุรักษ์ และถ่ายทอดสืบต่อกันมาอย่างซื่อสัตย์จนถึงปัจจุบันโดยทางชีวิตและกิจการของนักบวชซาเลเซียน ชีวิตจิตนี้จึงเป็นดังเมล็ดพืชที่งอกงามเจริญเติบโตขึ้นเป็นต้นไม้ใหญ่แผ่กิ่งก้านสาขาไปทั่วทุกมุมโลก ถึงประเทศไทยและได้หยั่งรากลงในรั้วของโรงเรียนต่างๆ นำความเจริญก้าวหน้าในด้านการศึกษาอบรมแก่เยาวชนดังที่เห็นในปัจจุบัน

การที่เราจะทำความรู้จักและเข้าใจชีวิตจิตเยาวชนซาเลเซียนได้เป็นอย่างดีนั้น สิ่งสำคัญที่สุดที่เราควรทำก่อนอื่น ก็คือเราควรทำความรู้จักและศึกษาชีวิตทั้งด้านการงานและด้านชีวิตจิตของคุณพ่อบอสโก ผู้ก่อตั้งคณะซาเลเซียน (บรรดาคุณพ่อหรือบาทหลวง) และมาเดอร์มัสซาแรลโล ผู้ร่วมกับคุณพ่อบอสโกก่อตั้งคณะซิสเตอร์ธิดาแม่พระองค์อุปถัมภ์

ทั้งคุณพ่อบอสโกและมาเดอร์มัสซาแรลโลบอกให้เราเป็นคนร่าเริง และทำหน้าที่อย่างดีอยู่เสมอ ท่านยังบอกอีกว่าเราทุกคนสามารถเป็นนักบุญได้ด้วยความร่าเริงยินดีนี่เอง  มาถึงตอนนี้ ถ้าใครยังไม่เคยรู้จักกับท่านนักบุญผู้น่ารักทั้งสอง ที่รักเยาวชนมากดุจดังดวงใจของตนเองแล้ว ก็ควรจะรีบๆ ไปทำความรู้จักกับท่านซะก่อนนะคะ แล้วจะช่วยให้เข้าใจชีวิตจิตเยาวชนซาเลเซียนซึ่งจะช่วยให้เราเป็นคนร่าเริงยินดีและมีความสุขใจอยู่เสมอ ได้มากขึ้นอีกเยอะเลยค่ะ

เมื่อเรารู้จักกับคุณพ่อบอสโก เราจะได้รู้จักกับศูนย์เยาวชนที่วัลด็อกโก ซึ่งเป็นสถานที่แห่งแรกที่คุณพ่อหามาได้สำหรับบรรดาเยาวชนที่มาร่วมทำกิจกรรมที่สนุกสนานเหมาะสมกับวัยของตน และยังได้ฟังเรื่องราวที่สอนใจ ให้แง่คิดดีๆ ได้รับฟังคำปลอบโยนจากคุณพ่อเกี่ยวกับปัญหาที่เยาวชนบางคนเผชิญอยู่อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ คุณพ่อจะคอยหาหนทางช่วยเหลือพวกเขาเท่าที่คุณพ่อจะช่วยได้

เมื่อเรารู้จักกับมาเดอร์มัสซาแรลโล เราจะได้รู้จักกับห้องตัดเย็บเสื้อผ้าที่มอร์เนเซ ที่ที่ทุกฝีเข็มที่ปักลงไปในผ้าเป็นการแสดงความรักต่อพระเจ้า ณ ที่นี้ เต็มไปด้วยความเอื้ออาทรกันฉันพี่น้องในครอบครัวเดียวกัน แต่ละคนต่างพยายามเสียสละเพื่อคนอื่น มาเดอร์มัสซาแรลโลคอยดูแลทุกคน และเห็นความต้องการของคนอื่นๆ โดยที่ไม่มีใครต้องเอ่ยปาก มาเดอร์เอาใจใส่ทุกคน คอยให้คำแนะนำในการปรับปรุงข้อบกพร่องของแต่ละคน และขอให้คนอื่นแนะนำมาเดอร์ในการปรับปรุงข้อบกพร่องของมาเดอร์เองด้วย

เนื้อที่ย่อหน้าเดียวคงจะไม่สามารถพรรณนาถึงคุณค่าของความดีของบุคคลคนหนึ่งได้เพียงพอ แต่หากเราได้รู้จักบ้านเล็กๆ ที่เบกกี ศูนย์เยาวชนวัลด็อกโก หน้าต่างเล็กๆ ที่วัลโปนัสกา และห้องตัดเย็บที่มอร์เนเซแล้ว จะช่วยให้เรา

  • ดำเนินชีวิตประจำวันด้วยความกล้าหาญและมั่นคง
  • เข้มแข็งในการเอาชนะอุปสรรค และทำงานได้อย่างดีด้วยความจริงใจ และให้ความช่วยเหลือคนอื่นๆ จากใจจริง
  • ทำงานด้วยความนับถือซึ่งกันและกัน ไว้วางใจกันและทำงานในความเงียบซึ่งช่วยให้เราได้ยินเสียงของพระ และพบพระเยซูเจ้าในชีวิตประจำวัน