คุณพ่อทอม อุสฮุนนาลิล สงฆ์ชาวอินเดียของคณะซาเลเซียน ที่ได้รับการปล่อยตัวจากกลุ่ม ISIS ได้ถูกพามาที่กรุงโรม ด้วยความช่วยเหลือของสุลต่านโอมาน และเมื่อวันที่ 13 กันยายน 2017 ได้เข้าเฝ้าสมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ที่วาติกัน คุณพ่อทอม ได้ก้มลงจุมพิตแทบเท้าของพระสันตะปาปา เพื่อขอบคุณที่พระองค์ทรงช่วยประสานงานมานานนับปี ในการเจรจากับฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อช่วยให้ ISIS ปล่อยตัวท่าน หลังจากที่คุณพ่อทอมจุมพิตแทบเท้าพระสันตะปาปาแล้ว พระสันตะปาปาทรงพยุงคุณพ่อทอมขึ้นมา แล้วจุมพิตมือของคุณพ่อทอม และขอให้คุณพ่ออวยพรพระองค์ด้วย ทั้งนี้ วาติกันเปิดเผยว่า ตลอด 18 เดือนที่ถูกจับกุมตัว คุณพ่อทอมไม่ได้ถวายบูชาขอบพระคุณเลย แต่ทุกวันท่านสวดภาวนาแบบเงียบ ๆ ไม่เคยขาดเลย
สารวันผู้ยากไร้โลกครั้งที่ 3
ผู้ยากไร้ได้ช่วยชีวิตพวกเราเพราะพวกเขาเผยพระพักตร์ของพระเยซูเจ้าให้เราได้เห็น หัวข้อวันผู้ยากไร้โลกครั้งที่ 3 ที่สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสทรงเลือกคือ “เพราะพระองค์ไม่มีวันทรงลืมคนขัดสนเลย ความหวังของคนยากจนจะไม่ล้มเหลวอย่างแน่นอน” (สดด 9:18) ในสารวันผู้ยากไร้โลกซึ่งปีนี้ตรงกับวันอาทิตย์ที่ 17 พฤศจิกายน ค.ศ. 2019 สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสทรงตรัสว่า คำพูดเหล่านั้นของบทสดุดี “แสดงให้เห็นถึงความจริงที่ลึกซึ้งที่ว่า ความเชื่อคือสิ่งที่อยู่เหนือสิ่งอื่นใดในหัวใจของผู้ยากไร้ ความเชื่อช่วยพวกเขากอบกู้ฟื้นฟูความหวังในยามที่ต้องเผชิญกับความอยุติธรรม ความทุกข์และความไม่แน่นอนของชีวิต” ทรงชี้ให้เห็นว่าตลอดหลายศตวรรษที่ผ่านมามีคนรวยและคนจนอยู่เสมอ และในวันนี้ “เราต้องยอมรับการเป็นทาสรูปแบบใหม่ ๆ ของชายหญิงเยาวชนและเด็กหลายล้านคน” “กี่ครั้งกี่หนที่พวกเราเห็นคนยากจนคุ้ยตามถังขยะเพื่อค้นหาสิ่งที่คนอื่นทิ้งด้วยความหวังว่าจะเจอบางสิ่งบางอย่างเพื่อสวมใส่หรือเพื่อเลี้ยงชีวิต” ในพระคัมภีร์ พระเจ้าทรงให้ความสนใจคนยากไร้อยู่เสมอ “สถานการณ์ของผู้ยากไร้ที่เราเห็นอยู่ในขณะนี้เตือนใจเราให้ไม่อยู่ห่างจากพระเจ้าผู้ทรงสถิตอยู่กับพวกเขาและทนทุกข์ทรมานในพวกเขา เราถูกเรียกให้สัมผัสเลือดเนื้อของพระองค์ในผู้ยากไร้และมุ่งมั่นเสนอตัวรับใช้ นี่เป็นการประกาศข่าวดีอย่างแท้จริง ความมุ่งมั่นในการส่งเสริมคนยากจนรวมถึงการพัฒนาด้านสังคมของพวกเขานั้น ไม่ได้เป็นสิ่งที่ต่างไปจากการประกาศข่าวดีแห่งความรอดเลย ในทางตรงกันข้ามแสดงให้เห็นความสมจริงของความเชื่อของคริสตชนและความถูกต้องทางประวัติศาสตร์” สมเด็จพระสันตะปาปาตรัสว่า “ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเป็นประจักษ์พยานถึงความหวังของคริสตชนท่ามกลางกระแสของสังคมในยุคปัจจุบันที่เต็มไปด้วยกระแสบริโภคนิยมซึ่งทำให้ของสิ้นเปลืองเกิดขึ้นเต็มไปหมดเพียงเพื่อตอบสนองคุณภาพชีวิตที่คนทั่วไปคิดว่าดี สิ่งที่จำเป็นในตอนนี้ คือการเปลี่ยนแนวความคิดเพื่อที่เราจะได้รู้จักแยกแยะว่าสิ่งไหนจำเป็น เพื่อที่เราจะสามารถมอบเนื้อหาและยืนยันการประกาศอาณาจักรของพระเจ้า” พระองค์ท่านได้ตรัสอีกว่า “ถึงแม้ว่าคนจนจะต้องการสิ่งของ อาทิ เสื้อผ้า หรือ อาหารอุ่นๆ สักมื้อ แต่สิ่งที่พวกเขาต้องการมากที่สุดคือความรัก” “พระเจ้าได้เลือกสิ่งที่อ่อนแอเพื่อที่จะทำให้สิ่งที่แข็งแกร่งได้ละอาย ผู้ยากไร้ได้ช่วยชีวิตพวกเราเพราะพวกเขาเผยพระพักตร์ของพระเยซูเจ้าให้เราได้เห็น” สมเด็จพระสันตะปาปาทรงตรัสสรุปว่า “หากศิษย์พระคริสต์ปรารถนาจะเป็นผู้ประกาศ พวกเขาต้องหว่านเมล็ดพันธุ์แห่งความหวังที่จับต้องได้” พระองค์ท่านทรงขอให้ชุมนุมคริสตชนทุกแห่งและทุกคนที่รู้สึกถูกกระตุ้นให้เสนอความหวังและการปลอบโยนคนจน “ช่วยกันส่งเสริมวันผู้ยากไร้โลกให้เป็นโอกาสของความมือกันอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อว่าจะไม่มีใครถูกกีดกันจากความใกล้ชิดและความน้ำหนึ่งใจเดียวกัน” […]
Leave a Reply