ประวัติความเป็นมาของหอพักเอาซีลีอุม
"จงดูแลเอาใจใส่พวกเขาด้วย เพราะเป็นลูกของเรา"
ความฝันของคณะที่จะนำความรักศรัทธาต่อพระมารดามารีย์องค์อุปถัมภ์ให้เป็นที่รู้จักแก่บรรดาเยาวชนทำให้ซิสเตอร์
มิชชันนารีผู้มีใจรักร้อนรน เริ่มต้นเสาะแสวงหาสถานที่ในเมืองหลวงของประเทศไทย เพื่อวางรากฐานบ้าน แห่ง"ความรักพระ"
อีกหนึ่งหลังสำหรับบรรดาเยาวชนหญิง
บ้านศาลาแดงได้ทำพิธีเสกอวยพร และเปิดกิจการอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2503(ค.ศ. 1960)
ในสมัยของสมเด็จพระสันตะปาปา ยอห์นที่ 23 ตรงกับรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช แห่งราชวงศ์จักรี
ทรงเป็นพระมหากษัตริย์แห่งประเทศไทย ฯพณฯ พระสังฆราช หลุยส์ โชเร็งเป็นท่านมุขยายกแห่งสังฆมณฑลกรุงเทพฯ
มาเดอร์อัลเจลา เวสปา เป็นอัครธิการิณีแห่งคณะธิดาแม่พระ องค์อุปถัมภ์
หมู่คณะแรกประกอบด้วย
- มาเดอร์เทเรซา แมร์โล อธิการิณีเจ้าคณะแห่งประเทศไทย
- ซิสเตอร์ กราซเซียลลา อามาตี เลขานุการ
- ซิสเตอร์ เอสเตรีนา ปรันโด อธิการิณี
- ซิสเตอร์ นาเดีย แฟร์โร ผู้ดูแล
- ซิสเตอร์ มาร์เกรีตา เมโรนี เหรัญญิก
วันที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ.2503 (ค.ศ.1960) คณะซิสเตอร์ไ้ด้เริ่มกิจการด้านสังคมสงเคราะห์ "การพิทักษ์เยาวชน"
สำหรับเยาวชนคาทอลิกซึ่งเข้ามาทำงานรับใช้ครอบครัวต่างๆในเมืองหลวงเป็นการพบปะเสวนาทุกวันอาทิตย์ต้นเดือนโดยมี
พระสงฆ์ซาเลเซียนเป็นประธานในการประชุมและอบรม กิจการนี้ดำเนินไปเป็นเวลาหลายปีวันที่ 30พฤศจิกายน พ.ศ.2503 (ค.ศ.1960)
หอพักได้ทำการจดทะเบียน และได้รับการรับรองเป็นหอพักนักเรียนดีเด่น จากกระทรวงศึกษาธิการนับเป็นเกียรตินิยมครั้งแรกที่หอพัก
ได้รับและยังได้รับโล่พร้อมเกียรติบัตร หอพักดำเนินกิจการตามพระราชบัญญัติหอพัก ประจำปีพุทธศักราช 2507 อีกหลายครั้ง ซึ่งนำ
ความยินดีมาสู่หมู่คณะอย่างยิ่ง
เมื่อการก่อสร้างหอพักหลังใหม่ได้สำเร็จลงแล้วในปีค.ศ.1967ก็ได้เิริ่มงานก่อสร้างต่อเติมปีกด้านหนึ่งของหอพักเพื่อใช้เป็นสำนักงาน
ของภาค และที่พักอาศัยของบรรดาซิสเตอร์ด้วยหอพักสามารถรองรับนักเรียน นักศึกษาที่มีภูมิลำเนาอยู่ที่ต่างจังหวัดและเข้ามาศึกษาต่อ
ในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายและระดับมหาวิทยาลัย ไ้ด้จำนวน 80 คนนับเป็นบ้านหลังที่สอง ที่ปลอดภัย และอำนวยความสะดวกสำหรับ
เยาวชนหญิง อีกทั้งให้การอบรมด้านจริยธรรม เพื่อส่งเสริมคุณธรรมของกุลสตรี ตามแนวการอบรมของคุณพ่อบอสโก และมาเดอร์
์ มัสซาแรลโล วันที่ 18 พฤศจิยายน พ.ศ. 2510 (ค.ศ.1967) ได้เริ่มก่อสร้างวัดน้อยหลังใม่ และได้รับการเสกอวยพรโดย ฯพณฯ
พระสังฆราช ยวง นิตโย มุขนายกแห่งสังฆมณฑลกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 6 มิุถุนายน พ.ศ. 2511 (ค.ศ. 1968)วัดน้อยของหมู่คณะนี้
ยังอำนวยความสะดวกด้านศาสนบริการวันอาทิตย์แก่ชาวอิตาเลียน เวลา 10.30 น.โดยพระสงฆ์ซาเลเซียน และที่สุดในปี พ.ศ.2528
(ค.ศ.1985) คุณพ่อคาร์โล เวลาร์โด สงฆ์ซาเลเซียน ได้รับมอบหมายเป็นผู้รับผิดชอบภารกิจนี้โดยตรง
เมื่อภาวะอันตรายของอาคารที่กำลังทรุดตัวลง เนื่องจากการใช้คานไม้ในการก่อสร้างนั้น จึงเกิดความจำเป็นที่จะทำการก่อสร้างปีกอีก
ด้านหนึ่งของบ้านพักขึ้นในปี พ.ศ. 2528 (ค.ศ.1985) เพื่อช่วยพยุงปีกสองด้าน บ้านพักที่ต่อเติมขึ้นใหม่นี้จึงใช้เป็นประโยชน์สำหรับ
บรรดาซิสเตอร์ซึ่งเดินทางมายังบ้านศูนย์กลางของภาคอย่างต่อเนื่องในปี พ.ศ. 2539 (ค.ศ. 1996) วัดน้อยของหมู่คณะได้รับแต่งตั้งให้
เป็นวัดของสัตบุรุษ ซึ่งมีอนุญาตให้ใช้ประกอบพิธีโปรดศีลศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ ได้ ในปี พ.ศ. 2545 (ค.ศ. 2002)พระสงฆ์ธรรมทูตชาว
เม็กซิกัน ได้ขอใช้วัดน้อยเพื่อประกอบพิธีมิซซาบูชาขอบพระคุณ ภาษาสเปน สำหรับคริสตชนชาวลาตินอเมริกา ซึ่งอาศัยอยู่ในกรุงเทพ ฯ ดังนั้นวันเสาร์เวลา 18.00 น. หมู่คณะจึงอำนวนความสะดวกด้านศาสนบริการดังกล่าว พร้อมกับการอภิบาลสัตบุรุษ ในการประกาศ
พระคริสตธรรม และการสอนคำสอนภารกิจของหมู่คณะจึงเป็นบ้านศูนย์กลางรวมใจของภาค ที่ให้การต้อนรับสมาชิก บรรดาศิษย์เก่า
และเยาวชนหญิงทั้งยังเป็นสถานอภิบาลแพร่ธรรมสำหรับคริสตชนไทยและต่างชาติด้วย
|