Authors Posts by user

user

86 POSTS 0 COMMENTS

0 821
ความหมายของ E-Sport

อีสปอตส์ (eSports) หรือรู้จักในชื่อ อิเล็กทรอนิกส์สปอตส์ (Electronic sports) คือกีฬาประเภทบุคคลหรือทีมชนิดหนึ่ง ที่เกี่ยวกับกับการแข่งขันวิดีโอเกม โดยมีการแข่งตามประเภทของวิดิโอเกมเช่น เกมวางแผนการรบ, เกมต่อสู้, เกมยิงมุมมองบุคคลที่หนึ่ง และ โมบา โดยการแข่งขันนั้นแบ่งออกเป็นระดับสมัครเล่น กึ่งอาชีพ และระดับมืออาชีพ รวมถึงมีทัวร์นาเมนต์ และ ลีกต่าง ๆ เช่นเดียวกับกีฬาทั่วไป

การจัดประเภทให้เป็นกีฬา

อีสปอตส์ถูกบรรจุให้เป็นการแข่งขันกีฬาชิงเหรียญอย่างเป็นทางการในเอเชียนเกมส์ 2022 โดยจะจัดขึ้นฐานะกีฬาสาธิตในเอเชียนเกมส์ 2018
ในประเทศไทยได้มีการคัดค้านการรับรองอีสปอตส์เป็นกีฬา โดยเห็นว่าอีสปอตส์ยังไม่เหมาะสมกับสังคมไทยที่มีปัญหาการใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยเฉพาะปัญหาเด็กและเยาวชนเสพติดเกม แต่ในวันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 ที่ประชุมคณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทยได้เห็นชอบให้อีสปอตส์เป็นชนิดกีฬา ที่สามารถจดทะเบียนจัดตั้งเป็นสมาคมกีฬาในประเทศไทยได้ และได้รับการลงนามอนุมัติอย่างเป็นทางการจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาในวันที่ 17 ตุลาคม 2560 ทำให้ไทยสามารถส่งผู้เข้าแข่งขันอีสปอตส์ในนามทีมชาติไทยอย่างเป็นทางการได้ ในรายการแข่งขันอีสปอตส์ระหว่างประเทศต่าง ๆ โดยการเห็นชอบดังกล่าวได้มองในมุมของการแข่งขันหรือกีฬา ว่าเป็นคนละส่วนกันกับปัญหาการติดเกม คล้ายกับที่เคยรับรองสนุกเกอร์ว่าเป็นกีฬา โดยมองว่าเป็นคนละส่วนกับการที่โต๊ะสนุกเกอร์อาจเป็นแหล่งมั่วสุมของเยาวชน ก่อนหน้านี้ในเดือนมิถุนายน 2560 คณะกรรมการโอลิมปิกของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวได้ให้การรับรองอีสปอตส์ในลักษณะเดียวกัน

0 2400

เรื่องย่อก้านกล้วย 2 : ชัยชนะจากสงครามยุทธ หัตถี ก้านกล้วยได้รับการแต่งตั้งเป็น เจ้าพระยาปราบหงสาวดี เป็นช้างทรงที่พระนเรศวรทรงใช้ในการศึกสงครามทุกครั้ง รวมถึงสงครามครั้งใหม่กับกรุงหงสาวดี ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า…แต่…ก่อนที่การเริ่มทัพจะเริ่มขึ้น เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน….ทหารหงสาบุกมาจับชาวบ้านอยุธยาไปเป็นเชลย และได้นำชบาแก้วและลูกแฝดของก้านกล้วยไปด้วย ก้านกล้วย ไม่มีหนทางอื่น นอกจากต้องแอบหลบหนีจากกรุงศรีอยุธยา เพื่อช่วยลูกเมียกลับมาให้เร็วที่สุด ครั้งนี้เขาต้องต่อสู้เพียงลำพังบนดินแดนของศัตรู ต้องเผชิญหน้ากับช้างศึกที่แข็งแกร่งที่สุดอย่าง …งานิล พร้อมด้วยอองสา มหาอำมาตย์จอมเวทมนตร์ นี่คือ …ภารกิจที่ใหญ่หลวงยิ่งกว่าครั้งใด.

0 8210

   “ก้านกล้วย”

วีรบุรุษผู้มี 4 ขา 2 งา และ 1 งวง ช้างศึกผู้สร้างเกียรติประวัติสูงสุดให้แก่ช้างไทย ในฐานะช้างคู่พระบารมีแห่งสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เมื่อครั้งสงครามยุทธหัตถีชื่อของเขาคือ “เจ้าพระยาปราบหงสาวดี” หรืออีกนามหนึ่งว่า… “ก้านกล้วย”นี่คือเรื่องราวการเติบโตของช้างเชือกหนึ่ง จากลูกช้างซุกซน ใช้ชีวิตอิสระอยู่ท่ามกลาง ป่าลึก แต่แล้ว…ด้วยความอยากรู้เรื่องของพ่อที่หายไปได้นำเขาออกเดินทางสู่การผจญภัยครั้งยิ่งใหญ่ผ่านหลากหลายเหตุการณ์ซึ่งให้บทเรียนใหม่ๆ เปลี่ยนให้เขากลายเป็นช้างที่กล้าแกร่ง เต็มไปด้วยพละ กำลัง ในขณะที่จิตใจกลับอ่อนโยน
บรรดาตัวละครต่างๆที่เขาได้พบระหว่างการเดินทาง อาทิเช่น จิ๊ดริด – นกพิราบสื่อสารขี้โม้, ชบาแก้ว ช้างสาวผู้น่ารักและแสนงอน, ติ่งรูและรถถังช้างรุ่นพี่และรุ่นอาซึ่งเขาได้พบในหมู่บ้าน, บุญเรือง – ช้างศึกแห่งเมืองหลวงและที่สำคัญ แสงดา – แม่ซึ่งก้านกล้วยจากมา ล้วนเป็นส่วนที่เข้ามาเติมเต็มสร้างสีสันและความสนุกสนาน พร้อมกันนั้นก็ให้บทเรียนต่างๆ ซึ่งเป็นเสมือนการเตรียมความพร้อม ให้เขาก้าวสู่การเป็นช้างศึกเชือกสำคัญในประวัติศาสตร์
นอกจากนี้การใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับมนุษย์และการได้พบกับผู้คนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสมเด็จพระนเรศวร มหาราชผู้เกรียงไกรของชาติไทย, ลุงมะหูด – หัวหน้าครูฝึกช้าง, มังคุด – เด็กมนุษย์ตัวน้อยผู้บริสุทธิ์สดใส และ ฯลฯ ยังทำให้ก้านกล้วยได้เรียนรู้ถึงมิตรภาพระหว่างคนและช้าง อันนำไปสู่การเสียสละตัวเอง โดยเดินหน้าเข้าสู่สงครามอย่างนักรบผู้กล้า เช่นเดียวกับที่พ่อของเขาเคยทำมาเมื่อครั้งอดีตสุดท้าย ขณะอยู่ท่ามกลางสมรภูมิรบ และต้องเผชิญหน้ากับศัตรูผู้น่าเกรงขามเขาก็ได้รับบทเรียนครั้งสำคัญที่สุด นั่นก็คือการเอาชนะความกลัวในจิตใจตัวเอง เมื่อมีชัยเหนือตัวเองก็ไม่มีสิ่งใดในโลกที่จะทำให้เขาพรั่นพรึงได้อีกต่อไป และจุดนี้เองที่ทำให้เขากลายเป็นช้างผู้ยิ่งใหญ่อย่างแท้จริง แม้จุดหมายแรกคือการตามหาพ่อแต่ในที่สุดก้านกล้วยกลับได้พบสิ่งที่มีความหมายยิ่งกว่า นั่นก็คือมิตรภาพ ความกล้าหาญและความเสียสละ ซึ่งอยู่ในตัวเขาเอง เป็นจิตวิญญาณ ของพ่อที่อยู่ กับเขามายาวนาน และนี่คือบทสรุปที่ล้ำค่ายิ่ง สำหรับการเดินทางของเขาในครั้งนี้

0 681

ศิลปะ หรือ ศิลป์ (สันสกฤตशिल्प ศิลฺป) ทั่ว ๆ ไปแล้วจะหมายถึงการกระทำหรือขั้นตอนของการสร้างชิ้นงานศิลปะโดยมนุษย์ คำแปลในภาษาอังกฤษที่ตรงที่สุดคือ Art ศิลปะเป็นคำที่มีความหมายกว้าง แต่ส่วนใหญ่แล้วจะมีความหมายเกี่ยวกับการสร้างสรรค์, สุนทรียภาพ, หรือการสร้างอารมณ์ต่าง ๆ

งานศิลปะ จะรวมถึงชิ้นงานหลาย ๆ ชนิดโดยผู้สร้างตั้งใจสร้างชิ้นงานเพื่อสื่อสาร, สื่ออารมณ์, หรือใช้สัญลักษณ์เพื่อให้ผู้ชมชิ้นงานตีความ ผู้สร้างงานศิลปะ มักเรียกรวม ๆ ว่า ศิลปิน

ศิลปะอาจรวมไปถึงงานในรูปแบบต่าง ๆ เช่น งานเขียน บทกวี การเต้นรำ การแสดง ดนตรี งานปฏิมากรรม ภาพวาด-ภาพเขียน despacito หรือ อื่น ๆ อย่างไรก็ตามส่วนใหญ่แล้วศิลปะจะหมายถึงงานทางทัศนศิลปะพวก ภาพวาด-ภาพเขียน งานประติมากรรม งานแกะสลัก รวมถึง conceptual art และ installation art

ศิลปะนับว่าเป็นศาสตร์ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน ตั้งแต่มีมนุษดขึ้น และนับว่าเป็นศาสตร์ของนักปราชญ์ที่เป็นที่ชื่นชม[1]

0 1907

ชายชาวอินเดียคนหนึ่ง ห้วงสองปีที่ผ่านมา  ผู้คนจะพบเห็นจนชินตาว่าบนบ่าของเขามีหม้อดินใบใหญ่  วางอยู่ข้างละใบ หม้อดินใบหนึ่งมีรอยร้าว ขณะอีกใบสมบูรณ์   สวยงามไร้ที่ติ หม้อใบสวยสามารถบรรจุน้ำไว้เต็มเปี่ยม นับจากลำธารจนถึงบ้านเจ้านาย ขณะที่อีกใบหนึ่งนั้น  เมื่อมาถึงปลายทางกลับเหลือน้ำแค่ครึ่งเดียว  เท่ากับว่าชายผู้นี้ขนน้ำได้เที่ยวละหม้อครึ่งอยู่ทุกครั้ง

waterjugแน่ล่ะ…หม้อดินใบสวยย่อมภาคภูมิใจในตนเอง  ที่ทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์ครบถ้วน ส่วนหม้อดินใบร้าว
นอกจากอดไม่ได้ที่จะรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจในความไม่สมประกอบ
ของตนเองแล้ว มันยังรู้สึกผิดกับการทำหน้าที่ได้
ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วยอีกด้วย หลังจากสองปีเต็ม
ที่แบกความทุกข์ระทมขมขื่นนั้นเอาไว้

วันหนึ่งมันจึงตัดสินใจเอ่ยกับคนหาบน้ำตรงลำธารว่า
“ฉันรู้สึกละอายใจเหลือเกิน.. ฉันอยากขอโทษท่าน..
ตลอดสองปีมานี้ ฉันทำงานให้ท่านได้เพียงครึ่งเดียวเท่านั้น
เนื่องจากเจ้ารอยร้าวบนตัวฉันมันทำให้น้ำรั่วไหลไปตลอดทาง”

13881929เมื่อฟังเช่นนั้นแล้ว คนขนน้ำก็พลอยรู้สึกเสียใจไปด้วย
และแล้วเขาก็พูดว่า “เอาล่ะ.. ระหว่างทางที่เราจะเดินกลับ
ไปบ้านเจ้านาย ฉันอยากให้เธอสังเกตดอกไม้สวยๆข้างทางเดิน
สักหน่อย เธอไม่ได้สังเกตหรอกหรือว่า…
ทำไมดอกไม้ป่าเหล่านั้น
ถึงได้งอกงามเฉพาะฝั่งที่ฉันแบกเธอเท่านั้น ทำไมมันไม่ขึ้น
อีกฟากหนึ่งด้วยล่ะ..

นั่นเป็นเพราะฉันได้ตระหนักในข้อจำกัดของเธอ
จึงอาศัยเงื่อนไขนี้เพาะเมล็ดพันธุ์ดอกไม้ป่า
ตรงทางเดินฝั่งที่ฉันแบกเธอเสมอมา และทุกๆวัน
ขณะที่เราเดินกลับบ้าน เธอเองก็ได้ช่วยฉันรดน้ำให้มัน..

แล้วในสองปีนี้ฉันก็ได้เด็ดดอกไม้สวยๆนี้ไปปักแจกัน
ให้เจ้านายของเราด้วย นี่ถ้าหากไม่มีเธอแล้วล่ะก็
เจ้านายของเราคงไม่มีโอกาสได้ดอกไม้ป่าอันแสนสวยงาม..
ที่ผลิสะพรั่งอยู่ระหว่างทางมาประดับบ้านเป็นแน่

0 3205

มีพี่น้องคู่หนึ่ง ตั้งแต่เด็กรักใคร่สามัคคีกันมาก ครั้นโตเป็นผู้ใหญ่ เนื่องจากต่างก็แต่งงานมีครอบครัวแล้ว พ่อแม่จึงให้พวกเขาแยกบ้านกันอยู่ แยกบ้านไม่แยกนาในสมัยก่อนเป็นเรื่องธรรมดา พี่น้องคู่นี้ก็เช่นเดียวกันมีอยู่ปีหนึ่งหลังจากเก็บเกี่ยวข้าวแล้ว ต่างก็แบ่งข้าวเปลือกกันคนละครึ่ง หาบกลับไปบ้านของตน แล้วกองไว้ที่ลานจากข้าวหน้าบ้าน

1433945003-2015061020-oตกค่ำผู้เป็นพี่ก็คิดว่า “น้องชายอายุยังน้อย ลูก ๆ ก็ยังเล็กอยู่ เราควรที่ช่วยเหลือเขาให้มากถึงจะถูก” เมื่อคิดเช่นนั้นแล้วก็หาบข้าเปลือกหนึ่งหาบ ไปที่บ้านของน้องชายอย่างเงียบ ๆ  ข้างฝ่ายน้องชายก็คิดเช่นเดียวกันว่า “พี่ชายมีลูกหลายคน แบ่งข้าวเปลือกได้เพียงไม่กี่หาบจะพอกินได้อย่างไร?” คิดแล้วก็หาบข้าวเปลือกหนึ่งหาบส่งไปที่บ้านของพี่ชายอย่างเงียบ ๆ รุ่งเช้าเขาทั้งสองต่างก็ประหลาดใจ ที่ข้าวเปลือกของตนไม่ได้ลดน้อยลงเลย พอตกค่ำเขาทั้งสองต่างก็เกิดความคิดแบบเดิมขึ้นอีกเมื่อพี่หาบข้าวเปลือกไปถึงหน้าบ้านของน้องชาย เป็นเวลาเดียวกับที่น้องชายก็กำลังหาบข้าวเปลือก เตรียมจะส่งไปให้พี่ชายเช่นกัน เขาทั้งสองเผชิญหน้ากัน เกิดความรู้สึกตื้นตันใจจนน้ำตาไหลอย่างไม่รู้สึกตัว

0 4576

กาลครั้งหนึ่งมาแล้ว มีต้นแอปเปิ้ลใหญ่อยู่ต้นหนึ่ง  เด็กชายเล็กๆคนหนึ่งชอบที่จะมาเล่นรอบๆต้นแอปเปิ้ลนี้ทุกวัน หนูน้อยจะปีนต้นไม้เล่น ปลิดลูกแอปเปิ้ลมากินและก็งีบหลับใต้ต้นไม้นั้น หนูน้อยรักต้นแอปเปิ้ลมาก และต้นแอปเปิ้ลก็รักแกเช่นกัน    แต่เวลาผ่านไป…. เด็กน้อยโตขึ้น และไม่มาเล่นใต้ต้นแอปเปิ้ลทุกวันเหมือนก่อนแล้ว

Little toddler boy, eating apple in the afternoon, sitting under apple tree, relaxing

วันหนึ่ง เด็กชายกลับมาพร้อมกับท่าทางหงอยเหงา ”มาเล่นด้วยกันเถอะ” ต้นแอปเปิ้ลชวนเด็กชาย  ”ฉันไม่ใช่เด็กอีกต่อไปแล้ว ฉันไม่อยากเล่นรอบต้นไม้อีกแล้ว “ เด็กชายตอบ  “ฉันอยากเล่นของเล่น แต่ไม่มีเงินซื้อมัน”

“เสียใจด้วย ฉันก็ไม่มีเงิน…แต่เธอพอจะเก็บลูกแอปเปิ้ลของฉันไปขายได้นะ เธอจะได้มีเงิน” ต้นแอปเปิ้ลกล่าว

เด็กดีใจมาก   เก็บลูกแอปเปิ้ลจนหมดต้น และจากไปอย่างมีความสุข  และก็ไม่ได้กลับมาอีกเลยหลังจากนั้น ทิ้งให้ต้นแอปเปิ้ลเสียใจ

ฉันไม่มีบ้านจะให้เธอ…แต่เธอพอจะตัดกิ่งของฉันไปสร้างบ้านของเธอได้นะ” เด็กชายจึงตัดกิ่งแอปเปิ้ลหมด และจากไปพร้อมกับความสุข

ต้นแอปเปิ้ลดีใจที่เห็นเด็กน้อยมีความสุขแต่เด็กชายก็ไม่ได้กลับมาอีกเลย ทิ้งให้ต้นไม้ต้องเสียใจและเดียวดายเช่นเคย

7894วันหนึ่งในฤดูร้อน เด็กชายได้กลับมาอีก ต้นแอปเปิ้ลดีใจมาก ”มาเล่นด้วยกันเถอะ” ต้นแอปเปิ้ลชวน “ฉันแก่มากจนเล่นไม่ไหวแล้วฉันอยากจะไปแล่นเรือเพื่อพักผ่อนในช่วงสุดท้าย มีเรือให้ฉันยืมบ้างไหม?” “ใช้ลำต้นฉันมาสร้างเรือสิ เธอจะได้แล่นเรือไปไกลตามที่ต้องการ” เด็กชายจึงตัดต้นไม้มาสร้างเรือ และเขาก็แล่นเรือจากไป ไม่ได้กลับมาให้เห็นอีกนาน

สุดท้าย หลายปีผ่านไป เด็กชายก็กลับมา ”ฉันเสียใจด้วย เด็กน้อยของฉัน ฉันไม่มีอะไรเหลือจะให้เธออีกแล้ว

แม้แต่ลำต้นให้ปีนก็ไม่มี” ต้นแอปเปิ้ลกล่าว ”ฉันก็แก่เกินไปแล้วเหมือนกัน” เด็กชายตอบ “สิ่งเดียวที่ฉันพอจะเหลือให้เธอได้คือ รากที่กำลังจะตายของฉันเท่านั้นเอง” ต้นไม้ร้องไห้ ”ฉันไม่ต้องการอะไรมากหรอก นอกจากที่ซึ่งจะได้เอนกายพักผ่อน ฉันเหนื่อยล้ามาหลายปีแล้ว” เด็กชายตอบ “ดีเลย รากไม้นี่แหละคือที่ๆดีที่สุดที่จะเอนกาย นั่งลงสิและพักผ่อนเถิด” เด็กชายนั่งลง ต้นแอปเปิ้ลดีใจมาก และยิ้มทั้งน้ำตา………….

Child picking apples on a farm in autumn. Little girl playing in apple tree orchard. Kids pick fruit in a basket. Toddler eating fruits at fall harvest. Outdoor fun for children. Healthy nutrition.

บทสอน

นี่คือเรื่องราวของเราทุกคน ต้นแอปเปิ้ลก็เปรียบได้กับพ่อแม่ของเรา ตอนเรายังเด็ก เราอยากเล่นกับพ่อแม่ของเรา แต่พอเราโต… เราก็จากพวกเขาไป จะกลับมาก็ต่อเมื่อ… เรามีปัญหาและต้องการความช่วยเหลือ แต่อย่างไรก็ตาม… พ่อแม่ของเราก็ยังอยู่ที่นั่นเสมอ คอยให้ทุกอย่างเพื่อให้เรามีความสุข… คุณอาจจะคิดว่าเด็กชายในเรื่องช่างโหดร้ายต่อต้นแอปเปิ้ล แต่เราล่ะ ไม่ได้ทำเช่นเดียวกันกับพ่อแม่ของเราหรือ???

0 1757

หนุ่มน้อยเพิ่งจบการศึกษาด้วยผลการเรียนดีเยี่ยมไปสมัครงานในตำแหน่งผู้จัดการ ในบริษัทใหญ่แห่งหนึ่ง หลังจากผ่านการสอบสัมภาษณ์ครั้งแรกไปแล้ว ผู้อำนวยการ ได้เรียกเขาไปสัมภาษณ์เป็นครั้งสุดท้ายก่อนตัดสินใจ ผู้อำนวยการเห็นข้อมูลในประวัติ ของเด็กหนุ่มคนนี้ว่ามีผลการเรียนเป็นเลิศในทุกวิชาตลอดมา นับตั้งแต่อุดมศึกษาจน จบมหาวิทยาลัย ไม่ปรากฏว่าเขาทำคะแนนตกเลย ผู้อำนวยการเริ่มคำถามว่า “เธอเคยได้รับทุนการศึกษาอะไรหรือเปล่า” เด็กหนุ่มตอบว่า “ไม่เคยครับ”ผู้อำนวยการถามต่อว่า “คุณพ่อของเธอเป็นคนจ่ายค่าเล่าเรียนให้ใช่ไหม”เด็กหนุ่มตอบว่า “คุณพ่อของผมเสียไปตั้งแต่ผมอายุได้ขวบเดียวครับ เป็นคุณแม่ที่จ่ายค่าเล่าเรียนให้ผม”ผู้อำนวยการถามต่อว่า “คุณแม่ของเธอทำงานที่ไหน”เด็กหนุ่มตอบว่า “คุณhousework2แม่ทำงานซักรีด”ผู้อำนวยการขอดูมือของเขา เด็กหนุ่มยื่นมือที่เรียบลื่นไม่มีที่ติให้ผู้อำนวยการดู ผู้อำนวยการถามต่อว่า “เธอเคยช่วยคุณแม่ของเธอทำงานบ้างหรือเปล่า”เขาตอบว่า “ไม่เคยครับ คุณแม่ต้องการให้ผมเรียนแล้วก็อ่านหนังสือเยอะๆ คุณแม่ซักผ้าได้เร็วกว่าผมด้วยครับ” ผู้อำนวยการบอกว่า “ฉันมีเรื่องให้เธอช่วยทำอย่างหนึ่งนะ วันนี้เธอกลับไปที่บ้านช่วยล้างมือของคุณแม่ของเธอแล้วกลับมาพบฉันอีกทีพรุ่งนี้เช้า” ด้วยความมั่นใจว่าโอกาสที่จะได้งานทำมีอยู่สูงมากเมื่อเขากลับไปถึงบ้านเขาจึงรู้สึกเต็มใจที่จะล้างมือให้แม่ของเขา ฝ่ายแม่รู้สึกประหลาดใจระคนหวั่นใจเธอส่งมือให้ลูก หนุ่มน้อยค่อยๆ ล้างมือให้แม่ แล้วน้ำตาไหลก็ออกมา เขาเพิ่งรู้สึกว่ามือของแม่นั้นช่างเหี่ยวย่นและเต็มไปด้วยริ้วรอยขูดข่วน ซึ่งบางแผลพอโดนล้างน้ำก็ทำให้แม่เจ็บจนตัวสั่นระริก นี่เป็นครั้งแรกที่เด็กหนุ่มตระหนักรู้ว่ามือคู่นี้เองที่ซักผ้าทุกวันเพื่อหารายได้มาส่งเสียให้เขาได้เล่าเรียน รอยแผลเหล่านี้คือราคาที่แม่ต้องจ่ายไปเพื่อความสำเร็จในการศึกษาของเขา เพื่อผลการเรียนที่ยอดเยี่ยมของเขา และอาจจะเพื่ออนาคตของเขาด้วย คืนนั้นสองแม่ลูกได้คุยกันอยู่นาน

894215-img.rc2lw1.8a76hเช้าวันต่อมา เด็กหนุ่มก็เดินทางไปที่ออฟฟิศของผู้อำนวยการ ผู้อำนวยการสังเกตเห็นน้ำตาในดวงตาของเขา จึงถามขึ้นว่า“ช่วยเล่าให้ฟังหน่อยว่าเมื่อคืนที่บ้าน เธอทำอะไรบ้าง แล้วได้บทเรียนอะไร”เด็กหนุ่มตอบว่า “ผมล้างมือให้แม่ครับ แล้วก็เลยช่วยแม่ซักผ้าที่เหลือจน เสร็จ”ผู้อำนวยการบอกว่า “ช่วยเล่าให้ฉันฟังหน่อยว่า เธอรู้สึกยังไง” เด็กหนุ่มตอบ “ข้อที่หนึ่ง ผมได้รู้ซึ้งถึงคำว่า สำนึกในบุญคุณถ้าไม่มีแม่ก็คงไม่มีความสำเร็จของผมด้วยข้อที่สอง จากการช่วยแม่ทำงานว่า ผมได้รู้ว่ามันลำบากยากเย็นยังไงกว่าจะทำอะไรออกมาสักอย่างหนึ่งข้อที่สาม ผมได้เรียนรู้ถึงความสำคัญของความผูกพันในครอบครัว”

ผู้อำนวยการจึงบอกว่า “ นี่คือสิ่งที่ฉันต้องการ ฉันอยากได้คนที่รู้ค่าของการได้รับความช่วยเหลือ อยากได้คนที่เข้าใจถึงความลำบากของใครสักคนในการจะทำอะไรได้มาสักอย่างและอยากได้คนที่ไม่ได้ตั้งเงินเป็นเป้าหมายในชีวิตแต่เพียงอย่างเดียวมาเป็นผู้จัดการให้ฉันเป็นอันตกลงว่าฉันรับเธอไว้ทำงาน ”ในเวลาต่อมา เด็กหนุ่มคนนี้ก็ได้ทำงานอย่างหนักและได้รับความนับถือจากผู้ใต้บังคับบัญชา ลูกจ้างทุกคนทำงานเป็นทีมอย่างขยันขันแข็ง กิจการของบริษัทก็จริญก้าวหน้าเป็นอย่างดี เด็กที่ถูกตามใจจนเป็นนิสัยได้ รับทุกอย่างที่ต้องการ จะสร้าง11นิสัยเอาแต่ใจตัวเองและเห็นแก่ตัวเองเป็นอันดับแรก เขาจะไม่สนใจความเหนื่อยยากของพ่อแม่ เมื่อถึงวัยทำงานเขาก็จะคาดหวังว่า ใครๆ จะต้องเชื่อฟังเขา เมื่อเขาเป็นผู้จัดการ เขาจึงไม่มีวันรู้ว่าบรรดาลูกจ้างนั้นลำบากอย่างไร และมักจะโทษคนอื่นคนลักษณะนี้เขาอาจจะทำงานได้ อาจจะประสบความสำเร็จช่วงหนึ่ง แต่ในที่สุดแล้ว เขาจะไม่สำเหนียกคุณค่าของความสำเร็จ หากยังคงคร่ำครวญ เคียดขึ้ง และไม่มีวันรู้สึกเพียงพอ
ถ้าเราเป็นพ่อแม่ประเภทที่ปกป้องลูกแบบนี้ จงถามตัวเราว่า เรากำลังให้ความรักกับลูก หรือ กำลังทำลายเขากันแน่ ?
…เราให้ลูกๆ มีบ้านใหญ่ๆ อยู่ …กินอาหารดีๆ …เรียนเปียโน …ดูทีวีจอใหญ่…

1388328557 แต่เวลาที่เราตัดหญ้า ลองให้ลูกได้ทำด้วย หลังอาหาร ให้เขาล้างถ้วยชามของตัวเองพร้อมๆ กับพี่ๆ น้องๆ ไม่ใช่ว่าเราไม่มีปัญญาจ้างคนรับใช้ แต่เพราะเราอยากจะให้ความรักกับพวกเขาอย่างถูกวิธี เราอยากให้เขาเข้าใจว่า ไม่ว่าพ่อแม่จะจนหรือจะรวย วันหนึ่งก็จะต้องผมขาวแก่เฒ่าลงไปเหมือนกับแม่ของเด็กหนุ่มคนนี้

สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ลูกของเราจะได้เรียนรู้ คือ รู้คุณค่าของความพยายาม ได้รู้จักว่า ความยากลำบากมันเป็นยังไง และได้เรียนรู้ที่จะทำงานร่วมกับผู้อื่นให้เป็น